วันอาทิตย์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2561
บทความที่20 สรุป
♣ สรุป
กุหลาบเป็นไม้ตัดดอกชนิดหนึ่งที่น่าสนใจจะทำการปลูก
เนื่องจากใช้ประโยชน์ ได้หลายอย่างไม่ว่าจะปลูกเพื่อตัดดอกบูชา
พระหรือปักแจกันประดับโต๊ะให้สวยงาม แม้กระทั่งปลูกตัดดอกขายก็ยังมีรายได้ดีไม่แพ้พืชชนิดอื่นๆ และตลาดกุหลาบก็กว้างขวางเป็นที่นิยมของคนทั่วไป ขายได้ง่าย นอกจากนั้นแล้วผู้ปลูกกุหลาบยังสามารถหารายได้จากการขยายพันธุ์กิ่งตอน กิ่งติดตา และต้นล้างรากอีกด้วย จะเห็นได้ว่ากุหลาบเป็นพืชที่น่าปลูกเป็นได้อย่างยิ่ง เนื่องจากสามารถทำรายได้ได้หลายทางหรือจะกล่าวว่าเกือบทุกส่วนของกุหลาบเป็นเงินเป็นทองทั้งสิ้นและสิ่งสำคัญที่สุด อันเป็นคุณลักษณะเด่นของกุหลาบคือเป็นพืชที่มีตลาดกว้างขวางและถ้าผู้ปลูกได้มีการปรับปรุง คุณภาพให้ดีมีดอกใหญ่ก้านยาวก็จะเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งภายในและต่างประเทศเป็นแน่แท้ />
บทความที่19 ลูกกวาดกลีบกุหลาบ
ลูกกวาดกลีบกุหลาบ (candy rose petal)
เครื่องปรุง
กลีบกุหลาบขนาดพอเหมาะ
ไข่ (เอาแต่ไข่ขาว)
น้ำตาล
วิธีทำ
เลือกกลีบกุหลาบขนาดพอเหมาะที่จะทำเป็นลูกกวาด จากนั้นนำไปชุบในไข่ขาวที่ปั่นแล้วให้ชุ่มทั้งกลีบ นำกลีบกุหลาบที่ชุบแล้วคลุกลงไปในน้ำตาลละเอียด จนน้ำตาลเกาะทั่วทั้งกลีบ จากนั้นนำมาวางไว้บนกระดาษไข ทิ้งไว้ให้แห้งประมาณ 4-8 ชั่วโมง ก็จะได้ลูกกวาดกลีบกุหลาบสำหรับทานเล่น หรือใส่ในขนมหรือเครื่องดื่มอื่นๆ หรือใช้ประดับตกแต่งหน้าขนมต่างๆ
บทความที่18 เยลลี่กลีบกุหลาบ
เยลลีกลีบกุหลาบ ( rose petal jelly)
ส่วนผสม
กลีบกุหลาบ 3-4 ถ้วย
น้ำเปล่า 4 ถ้วย
น้ำตาลทราย 4 ถ้วย
น้ำมะนาว
ใบสะระแหน่ 1 ช่อ
ผงวุ้น 1 ห่อ
วิธีทำ
เทน้ำและกลีบกุหลาบใส่หม้อ ตั้งไฟให้เดือด เคียวต่อ ประมาณ 5 นาที ดับไฟและปิดฝาหม้อ ทิ้งไว้ประมาณ 45 นาที เติมใบสะระแหน่ลงไปแล้วทิ้งไว้อีก 15 นาที จากนั้นนำมากรอง เติมน้ำมะนาว สังเกตดูจะเห็นน้ำสีชมพูคล้ำๆ เริ่มเป็นสีชมพูใสขึ้น เทกลับลงไปในหม้อ ตั้งไฟให้ร้อน ใส่ผงวุ้นลงไป แล้วคนจนละลายเข้ากัน เติมน้ำตาลและตั้งไฟต่ออีกประมาณ 3 นาที ต้องคนไปเรื่อยๆ จากนั้นเทเยลลีลงในขวดแก้วที่ผ่านการฆ่าเชื้อด้วยการสเตอรีไรซ์แล้ว ผนึกฝาขวดแก้วให้แน่น
บทความที่17 ยำกลีบกุหลาบ
ยำกลีบกุหลาบ
เมนูนี้เป็นอาหารไทย
จากเว็บ www.kruaklaibaan.com เป็นอาหารทานเล่น รสจัดจ้านถูกใจเราๆท่านๆที่เป็นคนไทยแน่นอน อย่าลืมนะคะเพื่อความปลอดภัย กุหลาบต้องปลอดสารเคมี
เครื่องปรุง
กุหลาบแกะเอาแต่กลีบรอบๆ 1 จาน (กลีบตรงกลางใกล้เกสรจะขมมากเลยไม่เอา)
หอมใหญ่หรือหอมแดง หั่นบางๆ 1/2 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 2-3 ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูซอย 4-5 เม็ด
กุ้งสด ปริมาณตามชอบ ใครจะใช้หมูสับแทนก็ได้
ผักชี ตามชอบถ้าต้องการใส่
วิธีทำ
ล้างดอกกุหลาบให้สะอาดก่อน แล้วเด็ดเอาแต่กลีบพักให้สะเด็ดน้ำ หอมใหญ่ พริกขี้หนู ล้างแล้วก็ซอย พักไว้ เอาน้ำใส่หม้อตั้งไฟพอเดือดเอากุ้งลงไปลวกให้สุก ถ้าใช้หมูสับก็รวนหมูให้สุกก่อนด้วย ลวกกุ้งสุกแล้วก็เอาใส่ชาม พักไว้ก่อน
ทีนี้ทำน้ำยำ โดยเอาพริกขี้หนูซอย น้ำตาล น้ำปลา น้ำมะนาวใส่ถ้วยเล็กๆคนให้ทุกอย่างเข้ากัน ชิมรสตามชอบขาดเหลือเพิ่มเติมได้ ทำน้ำยำเสร็จแล้วก็เอากุ้งสุกแล้ว หอมใหญ่ และน้ำยำผสมรวมกันในชาม คนให้ส่วนผสมเข้ากัน แล้วใส่กลีบกุหลาบลงไป เคล้ากลีบกุหลาบให้เข้ากันกับเครื่องยำ อย่าเคล้าแรงนะเดี๋ยวกลีบกุหลาบจะช้ำไม่น่าทาน เสร็จแล้วตักใส่จานเสริฟได้ จะใช้ผักแต่งหน้าหรือแต่งจานด้วยก็ได้
อาหารจานนี้เหมาะสำหรับเป็นของแกล้มสำหรับผู้ชอบดื่มได้ด้วย รสชาติจะออกขมนิดๆจากดอกกุหลาบนะ
บทความที่16 อาหารจากกลีบกุหลาบ
อาหารจากกลีบกุหลาบ
คุณอาจนึกไม่ถึงว่ากลีบกุหลาบนำไปทำอาหารได้ แต่นั่นเป็นเรื่องจริงปัจจุบันนี้มีผู้นำกลีบกุหลาบไปสร้างสรรค์อาหารหลากหลายเมนู แต่การนำกลีบกุหลาบมาทำอาหารต้องให้แน่ใจว่ากุหลาบของคุณไม่มีสารเคมีหรือยาฆ่าแมลงตกค้างอยู่ ดังนั้นควรเลือกกุหลาบที่คุณปลูกเองน่าจะปลอดภัยและเชื่อใจได้มากกว่า
สำหรับเมนูอาหารจากกลีบกุหลาบที่จะแนะนำนี้มีทั้งอาหารไทยและเทศ ถ้าสนใจจะลองทำรับประทานก็จัดการได้เลย
บทความที่15 พิษของดอกกุหลาบ
เอบีซีนิวส์ - อาจจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่คนส่วนใหญ่คิดถึงยามที่ซื้อดอกกุหลาบ ทว่าความอ่อนนุ่มและสีสันของดอกกุหลาบที่เป็นสัญลักษณ์ของวันวาเลนไทน์ อาจกลายเป็นมหันตภัย เนื่องจากกุหลาบเหล่านี้ถูกฉีดด้วยสเปรย์ จุ่มหรือฉีดพ่นด้วยสารเคมีที่อาจทำให้ผู้รับเสียชีวิตได้
ดอกกุหลาบมรณะเคลือบสารพิษเหล่านี้
ส่วนใหญ่มาจากแถบซาวันนา แปลงดอกไม้ที่อยู่รายรอบกรุงโบโกตา ประเทศโคลัมเบีย ซึ่งมีอุตสาหกรรมดอกไม้ตัดดอกที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากเนเธอร์แลนด์แดนทิวลิป โดยโคลัมเบียผลิตดอกไม้ได้มากถึง 62 เปอร์เซนต์ ของดอกไม้ตัดดอกที่ขายอยู่ในสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม
อุตสาหกรรมดอกไม้สร้างรายได้จากการส่งออกให้โคลัมเบียมหาศาลถึงปีละ 1,000 ล้านดอลลาร์ เกิดขึ้นบนสุขภาพที่ย่ำแย่ของคนงาน และสภาพแวดล้อมของประเทศ เพราะมีการใช้ยาฆ่าแมลงในระดับที่สูงมากถึงขั้นอันตรายตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก เพราะรัฐบาลโคลัมเบียไม่ได้ออกกฎหมายควบคุมการใช้ยาฆ่าแมลงในเรือนกระจกที่ปลูกดอกไม้ ทำให้ระดับการใช้สารพิษมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
บทความที่14 ผลกุหลาบกับสรรพคุณทางเครื่องสำอาง
ผลกุหลาบกับสรรพคุณทางเครื่องสำอาง น้ำมันสกัดจากผลและเมล็ดกุหลาบนำไปเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางมากมายโดยเฉพาะเครื่องสำอางบำรุงผิว | |
ดังนั้นในครั้งต่อไปถ้าคุณนึกถึงชาหอมๆที่ช่วยสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย คิดถึงอาหารช่วยบำรุงหัวใจ หรือคิดถึงยาที่ใช้บรรเทาอาการปวดจากโรคข้ออักเสบ คุณไม่ต้องไปมองไกล ผลกุหลาบในสวนของคุณนั่นแหล่ะ แต่ต้องจำไว้ว่าแม้ผลกุหลาบจะไม่มีพิษ แต่ถ้าคุณได้มาจากที่อื่นที่ไม่ใช่ในสวนของคุณเองต้องแน่ใจว่าไม่มีสารเคมีหรือยาฆ่าแมลงตกค้างอยู่ มิฉะนั้นแทนที่คุณจะได้รับประโยชน์เต็มที่คุณอาจได้รับผลในทางลบต่อสุขภาพของคุณ |
บทความที่13 ผลกุหลาบสรรพคุณทางยา
|
บทความที่12 นานาประโยชน์ของกุหลาบ
นานาประโยชน์ของผลกุหลาบ | |
เมื่อพูดถึงกุหลาบทุกคนมักจะนึกถึงแค่ดอก รือไม่ก็ต้นกุหลาบเท่านั้น มีสักกี่คนที่จะรู้ว่ากุหลาบก็มีผลเหมือนกัน แล้วผลกุหลาบมันคือส่วนไหนของกุหลาบกันล่ะ ผลกุหลาบ (Rose Hip) คือส่วนที่เป็นรังไข่โดยเมื่อเริ่มติดผลส่วนที่เป็นรังไข่จะขยายพองโตขึ้นโดยมีฐานรองดอกหุ้มไว้ ผลมีรูปร่างต่างๆ กันตามชนิด เช่น กลม กลมแป้น ยาวรี มีเนื้อนุ่ม และมีหลายสี เช่น สีส้ม สีแดง สีเหลือง หรือสีน้ำตาล บางทีก็เป็นสีม่วง ภายในผลจะมีเมล็ดเล็กๆ |
บทความที่11 ประโยชน์ดอกกุหลาบ
ประโยชน์ของกุหลาบ
กุหลาบ เป็นไม้ดอกที่มีความสวยงามยากที่จะหาดอกไม้ชนิดอื่นมาเปรียบเทียบได้จนกระทั่งมีผู้ให้ฉายาว่า "ราชินีแห่งดอกไม้" ดังนั้นกุหลาบจึงเป็นดอกไม้ที่นิยมปลูกและใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้กุหลาบยังมีคุณสมบัติที่ดีเด่นอีกหลายประการ สามารถใช้ประโยชน์ได้กว้างขวาง เช่น ใช้เป็นไม้กระถาง ไม้ตัดดอก ตกแต่งสถานที่ ตลอดจนใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับทำเป็น น้ำมันหอมระเหยและดอกไม้แห้ง ในการปลูกเป็นการค้าก็ยังได้เปรียบดอกไม้อีกหลายชนิดเป็นต้นว่า สามารถควบคุมการออกดอกได้ง่ายซึ่งทำให้กำหนดการออก ดอก ให้ตรงกับเทศกาลทำให้สามารถจำหน่ายได้ราคาดี และเนื่องจากกุหลาบเป็นดอกไม้ ที่นิยมของคนทั่วไป ดังนั้น จึงสามารถหาตลาดจำหน่ายได้ง่ายกว่าดอกไม้อื่นๆ นอกจากนี้กุหลาบที่ปลูกในประเทศไทยยังเจริญเติบโตได้ดีในฤดูหนาว ซึ่งต่างกับ ประเทศในแถบยุโรปที่ต้องการกุหลาบมาก การจะปลูกกุหลาบในฤดูหนาวต้องปลูกในเรือนกระจก ทำให้เสียค่าใช้จ่ายสูงจึงส่งผลให้ดอกกุหลาบมีราคา แพง ดังนั้น ประเทศ ที่ปลูกกุหลาบได้ดีในฤดูหนาวจึงสามารถตัดดอกส่งไปขายตลาดต่าง ประเทศได้ราคาดี
ประโยชน์:ในสังคมไทย นิยมนำกุหลาบมาใช้งานอย่างกว้างขวางในงานทุกประเภท ได้แก่ การตกแต่งสถานที่ สำนักงาน โรงแรม สถานที่ท่องเที่ยว หรือจัดเวทีแสดง ซุ้มงานแต่งงาน งานศพ ใช้บูชาพระ ใช้จัดดอกไม้แสดงความยินดีหรือเป็นของขวัญ โดยเฉพาะนิยมมอบให้กันในวันวาเลนไทน์เพื่อแสดงความรัก ดังนั้น กุหลาบจึงเป็นไม้ตัดดอกที่นิยมใช้ทุกเทศกาลสามารถเเบ่งให้ดูง่ายๆได้ดังนี้
1.)ปลูกเพื่อความสวยงาม
2.)ตกแต่งสวน
3.)เพิ่มบรรยากาศ
4.)ใช้ประดับตกแต่งบ้าน งานเลี้ยง งานแต่งงาน
5.)ปลูกเพื่อส่งดอกขาย
6.) เพื่อนำไปสกัดน้ำหอม
7.)นำไปทำเป็นส่วนประกอบของสปา
วันศุกร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2561
บทความที่10 การขยายพันธุ์ของกุหลาบ
การขยายพันธุ์ของกุหลาบ


พื้นที่ปลูก ควรปลูกในที่ที่ระบายน้ำได้ดี มีความเป็นกรดเล็กน้อย พีเอ็ช ประมาณ 6-6.5 และได้แสงอย่างน้อย 6 ชั่วโมง อุณหภูมิ อุณหภูมิที่เหมาะสมในการเจริญของกุหลาบคือ กลางคืน 15-18 องศาเซลเซียส และกลางวัน 20-25 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นช่วงอุณหภูมิที่จะทำให้ได้ดอกที่มีคุณภาพดี และให้ผลผลิตสูง หากอุณหภูมิต่ำกว่า 15 องศาเซลเซียส การเจริญเติบโตและการออกดอกจะช้าอย่างมาก หากอุณหภูมิสูงกว่า 28 องศาเซลเซียส ควรให้มีความชื้นในอากาศสูงเพื่อชลอการคายน้ำ ความชื้น ความชื้นสัมพัทธ์ที่เหมาะสมกับการเจริญของกุหลาบคือร้อยละ 70-80 แสง กุหลาบจะให้ผลผลิตสูง และดอกมีคุณภาพดี ถ้าความเข้มของแสงมาก และช่วงวันยาว

กุหลาบ สามารถขยายพันธุ์ได้หลายวิธี เช่น การตัดชำ การตอน การติดตา และการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เพื่อให้ได้ต้นกุหลาบที่มีระบบรากที่แข็งแรง และให้ผลผลิตสูงเกษตรกรมักนิยมกุหลาบพันธุ์ดีที่ติดตาบนตอกุหลาบป่า การปลูกและการจัดการ
การขยายพันธุ์กุหลาบที่นิยมใช้มี 3 วิธี คือ
1. การตัดชำ
วิธีการตัดชำที่นิยมทำอยู่ทั่วไปคือ เลือกกิ่งกุหลาบที่ไม่แก่และไม่อ่อน จนเกินไปนำมาตัดเป็นท่อนประมาณ 12-15 เซนติเมตร หรือ 1 คืบ รอยตัดต้อง อยู่ใต้ข้อพอดีแล้วตัดใบตรงโคนกิ่งออก จากนั้นเฉือนโคนทิ้ง แล้วจุ่มโคนกิ่งตัดชำนี้ ในฮอร์โมนเร่งราก เซ่น เซอราดิกส์ เบอร์ 2 (เพื่อช่วยเร่งให้ออกรากเร็วขึ้น) แล้วผึ่ง ให้แห้งนำไปปักชำในแปลงพ่นหมอกกลางแจ้ง ถ้าไม่มีแปลงพ่นหมอกก็ใช้เครื่องพ่นน้ำรดสนามหญ้าก็ได้แล้วให้น้ำเป็นระยะ ๆ ตามความจำเป็น โดยมีหลักว่าอย่า ให้ใบกุหลาบแห้ง กิ่งกุหลาบจะออกรากใน 12-15 วัน แล้วแต่พันธุ์ การชำกิ่งนี้ นิยมทำกันมากในปัจจุบันเพราะได้จำนวนต้นมากในระยะเวลาสั้นเสียค่าใช้จ่าย น้อยแต่กิ่งชำนี้เมื่อนำไปปลูกต้นจะโทรมเร็วภายใน 3- 4 ปี ซึ่งกุหลาบพันธุ์สีเหลือง และสีขาวมักจะออกรากยาก

ตัดกิ่งกุหลาบเป็นท่อนประมาณ 12-15 ซม.

เฉือนโคนกิ่งทิ้ง

จุ่มโคนกิ่งตัดชำในฮอร์โมนเร่งราก
2. การตอน
กิ่งที่ใช้ตอนมักมาจากกิ่งที่มีสภาพแตกต่างกันทั้งกิ่งอ่อนและกิ่งแก่ คละกันไปทำให้การเจริญเติบโตของต้นกุหลาบหลังลงแปลงปลูกในแปลงไม่สม่ำเสมอ ซึ่งการตอนนี้จะใช้เวลาในการเกิดรากนานประมาณ 4-7 สัปดาห์ ทั้งนี้ แล้วแต่ พันธุ์ที่จะใช้ตอน
3. การติดตา
วิธีการทำต้นกุหลาบติดตานี้ค่อนข้างยุ่งยากและต้องใช้เวลาในการทำ นานกว่า 2 วิธีแรกคือ ตั้งแต่เริ่มตัดชำต้นตอป่าจนถึงพันธุ์ดีทีนำไปติดนั้นออก ดอกแรกจะใช้เวลาประมาณ 5-6 เดือน โดยในขั้นแรกจะต้องตัดชำต้นตอป่า (ของกุหลาบป่า) ให้ออกรากและเลี้ยงต้นตอป่านั้นให้แตกยอดใหม่ยาวเกิน 1 ฟุต ขึ้นไป ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน (หลังตัดชำและออกราก) จากนั้นจึงนำ ตาพันธุ์ดีที่ต้องการไปติดตาที่บริเวณโคนของต้นตอป่า การติดตานี้จะต้องอาศัย ฝีมือและความชำนาญพอสมควรโดยจะใช้วิการติดตาแบบใดก็ได้ เช่น แบบตัวที เป็นต้น
วิธีติดตา วิธีติดตากุหลาบที่ได้ผลดีคือการติดตาแบบที่เรียกว่ารูปตัวที หรือ แบบโล่ มีวิธีทำดังนี้คือ
1. เลือกบริเวณที่จะติดตา ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะพยายามติดตาให้ต่ำที่สุด เท่าที่จะทำได้คือ ประมาณไม่เกิน 3 นิ้ว นับจากผิวดิน แล้วใช้กรรไกรหรือมีด ตัดหนามตรงบริเวณที่จะติดตาออกโดยรอบกิ่ง
2. ใช้ปลายมีดกรีดที่เปลือกเป็นรูปตัวที แล้วเผยอเปลือกตรงรอยกรีด ด้านบนให้เปิดออกเล็กน้อย
3. เฉือนตาเป็นรูปโล่ ให้ได้แผ่นตำยาวประมาณ 1 นิ้ว และให้แผ่นตานั้น มีเนื้อไม้ติดมาด้วยเพียงบางๆ ไม่ต้องแกะเนื้อไม้ติดมามาก ให้ลอกเนื้อไม้ออกอย่าง ระมัดระวังอย่าให้แผ่นตาโค้งงอหรือบอบช้ำ
4. นำแผ่นตาไปเสียบลงที่รอยกรีดของต้นตออย่างระมัดระวังอย่าให้แผ่นตาช้ำ โดยใช้มือซ้ายจับแผ่นตา (ตรงก้านใบ) ค่อย ๆ กดลงไปขณะเดียวกันมือขวา ก็ค่อยเปิดเปลือกช่วย แล้วพันด้วยพลาสติก
เพื่อให้ตาเจริญเติบโตเร็วขึ้น ควรปล่อยให้กิ่งใหม่เจริญเติบโตจนกระทั่ง กิ่งใหม่ยาวพอสมควรแล้วจึงตัดต้นตอที่อยู่เหนือกิ่งใหม่ออกทั้งหมด สำหรับ พลาสติก ที่ติดตาอยู่นั้นอาจจะปล่อยให้ผุหรือหลุดไปเองก็ได้ถ้าเห็นว่าแผ่นพลาสติกนั้นรัด ต้นเดิมแน่นเกินไปหรือไปขัดขวางการเจริญเติบโตของกิ่งใหม่ก็ให้แกะออก
ส่าหรับกิ่งที่แตกออกมาใหม่นี้ ควรมีไม้ผูกพยุงกิ่งไว้เสมอเพราะอาจจะ เกิดการฉีกขาดตรงรอยต่อได้ง่ายเนื่องจากรอยประสานยังไม่แข็งแรงนัก
ในกรณีที่การติดตานั้นไม่ได้ผล คือ แผ่นตาที่นำไปติดตานั้นเปลี่ยนเป็น สีน้ำตาลหรือสีดำให้รีบแกะแผ่นพลาสติกและแผ่นตานั้นออกแล้วติดตาใหม่ในด้าน ตรงข้ามกับของเดิม หากไม่ได้ผลอีกต้องเลี้ยงดูต้นตอนั้นจนกว่ารอยแผลจะเชื่อม ก้นดีแล้วจึงนำมาติดตาใหม่ได้
สำหรับการติดตาในกุหลาบแบบทรงต้นสูง (Standard) นั้นก็ทำเช่นเดียวกัน เพียงแต่ตำแหน่งที่ติดตาอยู่ในระดับสูงกว่าเท่านั้นเอง การติดตาจะติดที่ต้นตอหรือกิ่ง ขนาดใหญ่ที่แตกออกมาก็ได้
การดูแลรักษา
การให้น้ำ
ให้น้ำระบบน้ำหยด หรือใช้หัวพ่นน้ำระหว่างแถวปลูก อัตรา 6-7 ลิตร/ตร.ม./ วัน หรือ 49 ลิตร/ตร.ม./สัปดาห์ อาจให้ทุกวัน วันเว้นวัน หรือ 2-3 วันต่อครั้ง แล้วแต่สภาพการอุ้มน้ำของดิน อย่ารดน้ำให้ดินแฉะตลอดเวลา ควรให้ดินมีโอกาสระบายน้ำ และมีอากาศเข้าไปแทนที่บ้าง ดังนั้นใน 1 สัปดาห์ หากปลูกในโรงเรือนจะต้องใช้น้ำประมาณ 78,400 ลิตร หรือ 78.4 คิวบิคเมตร ต่อไร่ น้ำที่ใช้ควรมีคุณภาพดี มี pH5.8-6.5
การให้ปุ๋ยก่อนปลูก
ปุ๋ยก่อนปลูก คือ ปุ๋ยที่ผสมกับเครื่องปลูกก่อนการปลูกพืช ซึ่งให้ประโยชน์ 2 ประการคือ
1. ให้ธาตุอาหารที่พืชต้องการอย่างเพียงพอตั้งแต่เริ่มปลูก
2. ให้ธาตุอาหารบางชนิดในปริมาณมากและเพียงพอสำหรับการปลูกพืชตลอดฤดูซึ่งทำให้สามารถงดหรือลดการให้ปุ๋ยนั้น ๆ ได้
ระหว่างการปลูกพืชการให้ธาตุอาหารทุกชนิดแก่พืชในขณะปลูก ทำได้ลำบากเนื่องจากมีถึง 14 ธาตุ ธาตุบางชนิดจะมีอยู่ในดินอยู่แล้ว บางชนิดต้องให้เพิ่มเติม หากเป็นไปได้ควรส่งดินไปตรวจเพื่อรับคำแนะนำว่าควรปรับปรุงดินได้อย่างไร ซึ่งตัวอย่างสามารถส่งไปตรวจที่กองเกษตรเคมี กรมวิชาการเกษตร กรุงเทพฯ
การให้ปุ๋ยระหว่างปลูก
ปริมาณ และสัดส่วนของธาตุอาหาร การให้ปุ๋ยระหว่างปลูกพืช เนื่องจากธาตุอาหารส่วนใหญ่จะมีอยู่ในดินแล้วเมื่อปลูกพืชจึงยังคงเหลือธาตุ ไนโตรเจน และโปแทสเซียม ซึ่งจะถูกชะล้างได้ง่าย ดังนั้นจึงต้องให้ปุ๋ย ทั้งสองในระหว่างที่พืชเจริญเติบโต ซึ่งการให้ปุ๋ยอาจทำได้โดยการให้พร้อมกับการให้น้ำ (fertigation)
การให้ปุ๋ยพร้อมกับน้ำสำหรับกุหลาบ หากให้ทุกวันจะให้ในอัตราความเข้มข้นของไนโตรเจน 160 มก./ลิตร (ppm) และหากให้ปุ๋ยทุกสัปดาห์ควรให้ในอัตราความเข้มข้นของไนโตรเจน 480 มก./ลิตร
สัดส่วนของไนโตรเจน (N) ฟอสฟอรัส (P2O) และโปแตสเซียม (K2O) สำหรับกุหลาบในระยะต่าง ๆ คือ
1. ระยะสร้างทรงพุ่ม สัดส่วน 1 : 0.58 : 0.83
2. ระยะให้ดอก สัดส่วน 1 : 0.5 : 0.78
3. ระยะตัดแต่งกิ่ง สัดส่วน 1: 0.8 : 0.9
การดูแลกุหลาบระยะแรกหลังปลูก เมื่อตากุหลาบเริ่มแตก ควรส่งเสริมให้มีการเจริญทางใบ เพื่อการสะสมอาหาร และสร้างกิ่งกระโดง เพื่อให้ได้ดอกที่มีขนาดใหญ่ และก้านยาว ซึ่งทำได้ด้วยการเด็ดยอดเป็นระยะเวลาประมาณ 2-3 เดือน โดยเด็ดส่วนเหนือใบสมบูรณ์ (5 ใบย่อย) ใบที่สองจากยอด เมื่อดอกมีขนาดเท่าเมล็ดถั่วลันเตา จากนั้นกิ่งกระโดงจะเริ่มแทงออก ซึ่งกิ่งกระโดงนี้จะเป็นโครงสร้างหลักให้ต้นกุหลาบ ที่ให้ดอกมีคุณภาพดี
การตัดแต่งกิ่ง การตัดแต่งกิ่งกุหลาบปฏิบัติได้หลายวิธี แต่ละวิธีจะใช้หลักการที่คล้ายกัน คือตัดแต่งเพื่อให้ได้กิ่งที่สมบูรณ์เพื่อการตัดดอก และเพื่อให้ได้กิ่งกระโดง (water sprout หรือ bottom break) มากขึ้น และจะรักษาใบไว้กับต้นให้มากที่สุด เพื่อให้ได้กิ่งที่สมบูรณ์ที่สุด ควรรักษาให้พุ่มกุหลาบโปร่ง และไม่สูงมากเกินไปนัก เพื่อสะดวกต่อการดูแลรักษา และแสงที่กระทบโคนต้นกุหลาบจะช่วยกระตุ้นให้เกิดกิ่งกระโดงอีกด้วย การตัดแต่งกิ่งที่นิยมในปัจจุบันได้แก่ การตัดแต่งกิ่งแบบ ตัดสูงและต่ำ
การตัดแต่งแบบตัดสูงและต่ำ (สูงและต่ำจากจุดกำเนิดของกิ่งสุดท้าย) เป็นการตัดแต่งเพื่อให้มีการผลิตดอกสม่ำเสมอทั้งปี

ที่มาข้อมูล
1.https://sites.google.com/site/banswnkuhlab/kar-pluk-laea-dulae-raksa
2.http://iam.hunsa.com/kornny/article/13105
ที่มาของภาพที่จัดทำแบนเนอร์
1.https://wall.alphacoders.com/big.php?i=570618
จัดทำโดย นางสาวกัญญารัตน์ ปุงบางกะดี่ โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย กรุงเทพมหานคร
บทความที่9 ลักษณะของดอกกุหลาบ
ลักษณะของดอกกุหลาบ
กุหลาบเป็นพรรณไม้ยืนต้น เป็นพุ่มขนาดเล็ก ลำต้นมีความยาวประมาณ 30-200 เซนติเมตร ลำต้นเตี้ยและสูง มีหนามหรือไม่มีแล้วแต่ชนิดพันธุ์ลำต้นสีเขียวเมื่อแก่จะเป็นสีน้ำตาลแตก กิ่งก้านมารอบต้นใบเป็นใบรวมแตกออกจากกิ่งก้านก้านใบจะมีหูใบติด
อยู่ด้วยลักษณะใบโคนใบมนปลายใบแหลมขอบใบมีหยักเล็กน้อยตัวใบนิ่มมีสีเขียวใบจะออกจากก้านใบเป็นคู่ขนาดความกว้างของ
ใบประมาณ 2- 4 เซนติเมตรยาวประมาณ3 - 5เซนติเมตรดอกเป็นดอกเดี่ยวมีก้านดอกยาวแตกออกจากปลายกิ่งหรือง่ามใบที่กิ่ง
ลักษณะดอกเป็นกลีบเรียงซ้อนกันเป็นชั้นๆประมาณ4-6 ชั้นดอกมีกลีบ 5-15 กลีบขอบดอกเรียบตรงกลางดอกมีเกสรตัวผู้และตัวเมีย
อยู่รวมกันดอกมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ดอกบานมี ความกว้างประมาณ 2-6 เซนติเมตรลักษณะของลำต้นใบดอกแตกต่างกันไปตามชนิด
พันธุ์
กุหลาบเป็นพรรณไม้ยืนต้น เป็นพุ่มขนาดเล็ก ลำต้นมีความยาวประมาณ 30-200 เซนติเมตร ลำต้นเตี้ยและสูง มีหนามหรือไม่มีแล้วแต่ชนิดพันธุ์ลำต้นสีเขียวเมื่อแก่จะเป็นสีน้ำตาลแตก กิ่งก้านมารอบต้นใบเป็นใบรวมแตกออกจากกิ่งก้านก้านใบจะมีหูใบติด
อยู่ด้วยลักษณะใบโคนใบมนปลายใบแหลมขอบใบมีหยักเล็กน้อยตัวใบนิ่มมีสีเขียวใบจะออกจากก้านใบเป็นคู่ขนาดความกว้างของ
ใบประมาณ 2- 4 เซนติเมตรยาวประมาณ3 - 5เซนติเมตรดอกเป็นดอกเดี่ยวมีก้านดอกยาวแตกออกจากปลายกิ่งหรือง่ามใบที่กิ่ง
ลักษณะดอกเป็นกลีบเรียงซ้อนกันเป็นชั้นๆประมาณ4-6 ชั้นดอกมีกลีบ 5-15 กลีบขอบดอกเรียบตรงกลางดอกมีเกสรตัวผู้และตัวเมีย
อยู่รวมกันดอกมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ดอกบานมี ความกว้างประมาณ 2-6 เซนติเมตรลักษณะของลำต้นใบดอกแตกต่างกันไปตามชนิด
พันธุ์



กุหลาบสามารถจำแนกได้หลายแบบ เช่น จำแนกตามลักษณะการเจริญเติบโต ขนาดดอก สีดอก ความสูงต้น และจำแนก ตามลักษณะของดอก เป็นต้น ในที่นี้ได้จำแนกกุหลาบเฉพาะกุหลาบตัดดอกตามลักษณะการใช้ประโยชน์ ทางการค้าในตลาดโลกเป็น 5 ประเภทดังนี้

ที่มา : https://goo.gl/MqiHXm
กุหลาบดอกใหญ่ หรือ กุหลาบก้านยาว (large flowered or long stemmed roses) กุหลาบประเภทนี้เป็นกุหลาบไฮบริดที ที่มีดอกใหญ่ แต่การดูแลรักษายาก ผลผลิตต่ำ และอายุการปักแจกันสั้นกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับกุหลาบ Floribunda มักมีก้านยาวระหว่าง 50-120 เซนติเมตร กุหลาบดอกใหญ่ได้รับความนิยมมากใน สหรัฐอเมริกา โคลัมเบีย เอกวาดอร์ เม็กซิโก ญี่ปุ่น ซิมบับเว โมร๊อกโก ฝรั่งเศส และ อิตาลี พันธุ์กุหลาบดอกใหญ่ที่เป็นที่นิยมในตลาดต่างประเทศได้แก่ พันธุ์ เวก้า (Vega: แดง) , มาดาม เดลบา (Madam Delbard) , วีซ่า (Visa: แดง) , โรเท โรเซ (Rote Rose: แดง) , คารล์ เรด (Carl Red: แดง) , โซเนีย (Sonia: ชมพูส้ม) , เฟิร์สเรด (First Red: แดง) , โพรฟิตา (Prophyta: ปูนแห้ง) , บิอังกา (Bianca: ขาว) , โนเบลส (Noblesse: ชมพูส้ม) และ แกรนด์ กาลา (Grand Gala: แดง) เป็นต้น
กุหลาบดอกกลาง หรือ กุหลาบก้านขนาดกลาง (medium flowered or medium stemmed roses) เป็นกุหลาบชนิดใหม่ ซึ่งมีลักษณะระหว่างกุหลาบดอกใหญ่ และเล็ก เป็นกุหลาบ Hybrid Tea ให้ผลผลิตสูง อายุการปักแจกันยาว และทนการขนส่งได้ดี ความยาวก้านระหว่าง 40-60 ซม. แหล่งผลิตที่สำคัญได้แก่ประเทศเนเธอร์แลนด์ เยอรมนี อิตาลี อิสราเอล ซิมบับเว เคนยา พันธุ์ที่นิยมปลูกได้แก่พันธุ์ ซาช่า (Sacha: แดง) , เมอร์ซิเดส (Mercedes: แดง) , เกเบรียล (Gabrielle: แดงสด) , คิสส์ (Kiss: ชมพู) , โกลเด้นทาม (Goldentime: เหลือง) , ซาฟารี (Safari: ส้ม) และ ซูวีเนีย (Souvenir: ม่วง) เป็นต้น
กุหลาบดอกเล็ก หรือ กุหลาบก้านสั้น (small flowered or short stemmed roses) เป็นกุหลาบที่ได้รับความนิยมปลูก และบริโภคกันมากในยุโรป โดยเฉพาะ เยอรมนี และเนเธอร์แลนด์ กุหลาบก้านสั้นนี้เป็นกุหลาบ Floribunda ที่ให้ผลผลิตสูง อายุการปักแจกันยาว และทนต่อการขนส่งดีกว่ากุหลาบดอกใหญ่ มักมีความยาวก้านระหว่าง 30-50 เซนติเมตร แหล่งผลิตกุหลาบดอกเล็กได้แก่ประเทศ เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี อิสราเอล และเคนยา พันธุ์ที่นิยมปลูกได้แก่พันธุ์ ฟริสโก (Frisco:เหลือง) , เอสกิโม (Escimo: ขาว) , โมเทรีย (Motrea: แดง) , เซอไพรซ์ (Surprise: ชมพู) , และ แลมบาด้า (Lambada: แสด) เป็นต้น
กุหลาบดอกช่อ (spray roses) เป็นกุหลาบชนิดใหม่ ให้ผลผลิตต่ำต่อพื้นที่ ความยาวก้านระหว่าง 40-70 ซม. มักมี 4-5 ดอกในหนึ่งช่อ และยังมีตลาดจำกัดอยู่ เช่นพันธุ์ เอวีลีน (Evelien: ชมพู) เดียดีม (Diadeem: ชมพู) และ นิกิต้า (Nikita: แดง) เป็นต้น

ที่มา : https://goo.gl/tCXz7K
กุหลาบหนู (miniature roses) มีขนาดเล็กหรือแคระโดยธรรมชาติ ความสูงของทรงพุ่มไม่เกิน 1 ฟุตให้ผลผลิตสูง 450-550 ดอก/ตร.ม./ปี มีความยาวก้านดอกระหว่าง 20-30 ซม. ยังมีตลาดจำกัดอยู่ยกเว้นในประเทศญี่ปุ่น แอฟริกาใต้ และอิตาลี



1. กุหลาบตัดดอกหรือไฮบริดที (Hybrid Tea หรือ HT)
ปกติมัก ออกดอกเป็นดอกเดี่ยวมีขนาดโต กลีบดอกซ้อน พุ่มต้นตั้งตรงสูงประมาณ 1-2 เมตร กุหลาบที่มีขายทั่วไป ตามท้องตลาดขณะนี้มักจะเป็นกุหลาบประเภทนี้ อย่า งไร ก็ตาม พันธุ์ ไฮบริดที นั้น มิได้ใช้บลูกเป็นไม้ตัดดอกได้ดีทุกพันธุ์ ดังนั้น จำเป็น ต้องคัดเลือกพันธุ์ให้เหมาะสมสำหรับแต่ละท้องที่ ลักษณะที่เหมาะสมสำหรับจะใช้ เป็นพันธุ์สำหรับตัดดอก คือ
พันธุ์ดอกสีแดง ได้แก่ พันธุ์บราโว. เรดมาสเตอร์พีช, คริสเตียนดิออร์, โอลิมเปียด, นอริค้า, แกรนด์มาสเตอร์พีช, ปาปามิลแลนด์, เวก้า พันธุ์ดอกสีเหลือง ได้แก่ พันธุ์คิงส์แรนซัม, ซันคิงส์, เฮสมุดสมิดท์, นิวเดย์ โอรีโกลด์ และเมลิลอน พันธุ์ดอกสีส้ม ได้แก่ พันธุ์ซันดาวน์เนอร์, แซนดรา, ซุปเปอร์สตาร์หรือทรอพปิคานา พันธุ์ดอกสีชมพู ได้แก่ พันธุ์มิสออลอเมริกาบิวตี้ หรือมาเรีย, คาสลาส, ไอเฟลทาวเวอร์, สวาทมอร์, เฟรนด์ชิพ, เพอร์ฟูมดีไลท์, จูวังแซล, เฟิร์สท์ไพรซ์, อเควเรียส, ซูซานแฮมเชียร์ พันธุ์ดอกสีขาว ได้แก่ พันธุ์ไวท์คริสต์มาส เอทีนา
ปกติมัก ออกดอกเป็นดอกเดี่ยวมีขนาดโต กลีบดอกซ้อน พุ่มต้นตั้งตรงสูงประมาณ 1-2 เมตร กุหลาบที่มีขายทั่วไป ตามท้องตลาดขณะนี้มักจะเป็นกุหลาบประเภทนี้ อย่า งไร ก็ตาม พันธุ์ ไฮบริดที นั้น มิได้ใช้บลูกเป็นไม้ตัดดอกได้ดีทุกพันธุ์ ดังนั้น จำเป็น ต้องคัดเลือกพันธุ์ให้เหมาะสมสำหรับแต่ละท้องที่ ลักษณะที่เหมาะสมสำหรับจะใช้ เป็นพันธุ์สำหรับตัดดอก คือ
พันธุ์ดอกสีแดง ได้แก่ พันธุ์บราโว. เรดมาสเตอร์พีช, คริสเตียนดิออร์, โอลิมเปียด, นอริค้า, แกรนด์มาสเตอร์พีช, ปาปามิลแลนด์, เวก้า พันธุ์ดอกสีเหลือง ได้แก่ พันธุ์คิงส์แรนซัม, ซันคิงส์, เฮสมุดสมิดท์, นิวเดย์ โอรีโกลด์ และเมลิลอน พันธุ์ดอกสีส้ม ได้แก่ พันธุ์ซันดาวน์เนอร์, แซนดรา, ซุปเปอร์สตาร์หรือทรอพปิคานา พันธุ์ดอกสีชมพู ได้แก่ พันธุ์มิสออลอเมริกาบิวตี้ หรือมาเรีย, คาสลาส, ไอเฟลทาวเวอร์, สวาทมอร์, เฟรนด์ชิพ, เพอร์ฟูมดีไลท์, จูวังแซล, เฟิร์สท์ไพรซ์, อเควเรียส, ซูซานแฮมเชียร์ พันธุ์ดอกสีขาว ได้แก่ พันธุ์ไวท์คริสต์มาส เอทีนา
2. กุหลาบพวง หรือ ฟลอริบันด้า ( Foribunda หรือ F.)
กุหลาบพวงมีความแข็งแรงทนทานกว่ากุหลาบตัดดอก ออกดอกดกแต่ดอกไม่ใหญ่เท่ากับกุหลาบตัดดอกแต่มีครบทุกสี และออกดอกเป็นช่อทีละหลาย ๆ ดอก จึงนิยมเรียกว่ากุหลาบพวง และมักบานพร้อมกัน ดอกมีขนาดเล็ก พุ่มต้นตั้งตรงสูง ประมาณครึ่งเมตรถึง 1 เมตร เหมาะสมที่จะปลูกในแปลงประดับและในกระถางเช่น พันธุ์ฟูซีเลียร์
กุหลาบพวงมีความแข็งแรงทนทานกว่ากุหลาบตัดดอก ออกดอกดกแต่ดอกไม่ใหญ่เท่ากับกุหลาบตัดดอกแต่มีครบทุกสี และออกดอกเป็นช่อทีละหลาย ๆ ดอก จึงนิยมเรียกว่ากุหลาบพวง และมักบานพร้อมกัน ดอกมีขนาดเล็ก พุ่มต้นตั้งตรงสูง ประมาณครึ่งเมตรถึง 1 เมตร เหมาะสมที่จะปลูกในแปลงประดับและในกระถางเช่น พันธุ์ฟูซีเลียร์
า
3. Grandiflora เป็นกุหลาบที่พัฒนามาจากกุหลาบ Floribunda
อีกทีหนึ่ง กุหลาบประเภทนี้จะออกดอกเป็นช่อคล้ายกุหลาบประเภทFloribunda แต่ดอกมีขนาดใหญ่กว่าและรูปดอกนั้นมีลักษณะคล้ายกับกุหลาบประเภท Hybrid Tea มาก กุหลาบประเภทนี้มีพุ่มขนาดใหญ่ ดอกมีขนาดปานกลาง บางพันธุ์ก็ตรงข้ามกันคือมีดอกจำนวนน้อย ก้านช่อดอกยาวปานกลางกุหลาบประเภท Grandiflora นี้มีทรงต้นสูง จึงนิยมปลูกเป็นฉากหลัง
อีกทีหนึ่ง กุหลาบประเภทนี้จะออกดอกเป็นช่อคล้ายกุหลาบประเภทFloribunda แต่ดอกมีขนาดใหญ่กว่าและรูปดอกนั้นมีลักษณะคล้ายกับกุหลาบประเภท Hybrid Tea มาก กุหลาบประเภทนี้มีพุ่มขนาดใหญ่ ดอกมีขนาดปานกลาง บางพันธุ์ก็ตรงข้ามกันคือมีดอกจำนวนน้อย ก้านช่อดอกยาวปานกลางกุหลาบประเภท Grandiflora นี้มีทรงต้นสูง จึงนิยมปลูกเป็นฉากหลัง
4. กุหลาบ หรือ มินิเอเจอร์ (Miniature หรือ Min.) เป็นกุหลาบที่มีขนาดพุ่มต้นเล็ก สูง 1- 2 ฟุต ออกดอกเป็นพวงและดอกมีขนาดเล็ก นิยมปลูกประดับแปลง และใช้เป็นไม้กระถาง เช่น พันธุ์เบบี้ มาสเคอร์เหรด
5. กุหลาบเลื้อย หรือ ไคลมเบอร์ (Climher หรือ Cl.) กุหลาบชนิดนี้ลำต้นสูงตรง นำไปเลื้อยพันกับสิ่งต่าง ๆ ได้ดอกมีทั้งเป็นดอกขนาดใหญ่ และดอกเป็นพวง เช่น พันธุ์ดอนจวน , พันธุ์ค็อกเทล
6. ประเภทโพลีแอนท่า (Polyantha หรือ Pol.) เป็นกุหลาบลูกผสมระหว่างพันธุ์โรซ่า มัลติฟอร่า กับ โรซ่า ไชเนนซิสมีขนาดพุ่มต้นเตี้ย แข็งแรงและทนทานมาก ออกดอกเป็นพวงคล้ายกุหลาบพวง ลักษณะดอกและต้นคล้ายกุหลาบหนูแต่จะแตกต่างกับกุหลาบหนูตรงที่กุหลาบโพลีแอนท่าจะมีหูใบที่มีลักษณะของพันธุโรซ่า มัลติฟลอร่า กุหลาบประเภทนี้ เช่น พันธุ์วายวอน ราเบีย

7. ประเภทแรมเบลอร์ (Rambler หรือ R) มีลำต้นยาวและอ่อนโค้งออกดอกเป็นพวง และดอกมีขนาดเล็ก เช่น พันธ์ไดโรที เปอร์กิน
8. กุหลาบพุ่ม หรือซรับโรส (Shrub หรือ S.) ได้แก่กุหลาบพันธุ์ป่าหรือลูกผสมของพันธุ์ป่า ซึ่งมีทรงต้นเป็นพุ่ม ออกดอกเป็นช่อ ดอกมีขนาดเล็กส่วนมากมีกลีบชั้นเดียว เช่น พันธ์โรซ่า นิติด้า , โรซ่า มัลติฟลอร่า, โรซ่า รูโกซ่า



กุหลาบสีชมพู
เป็นสีที่นิยมปลูกกันมาก นอกจากจะให้ความโรแมนติกและสวยงาม น่ารักแล้ว กุหลาบสีชมพูยังเข้ากันได้ดีกับดอกไม้สีอื่นๆในแปลงดอกไม้ของเราอีกด้วย ในสีชมพูของกุหลาบนี้ยังมีหลายเฉดสี เช่น ชมพูเข้ม ชมพูอ่อน ชมพูอมส้ม ชมพูอมขาว เป็นต้น
Bonica กุหลาบพุ่ม Shrub เป็นพันธุ์ที่เหมาะกับสวนหรือแปลงดอกไม้เล็กๆ ลำต้นเป็นพุ่มสูงประมาณ 2-4 ฟุต แข็งแรง ทนทานต่อทั้งสภาพอากาศร้อนและอากาศหนาว ปลูกและดูแลรักษาง่าย เจริญเติบโตได้ดี ดอกดก ออกดอกเป็นช่อ สีสวย

ที่มา : https://goo.gl/StlvZK
กุหลาบสีแดง
ไม่ว่ายุคไหนสมัยไหนกุหลาบสีแดงยังคงครองความเป็นที่นิยมตลอดกาล โดยเฉพาะสีแดงเข้ม กุหลาบแดงนอกจากจะมีสีสวยงามแล้ว ยังมีความหมายถึงความรัก อีกด้วย
เหมาะที่จะปลูกเป็นไม้เลื้อยตามสวนเล็กๆหรือตามระเบียง เนื่องจากสีแดงของดอกมองเห็นได้ไกลและสะดุดตา กุหลาบพันธุ์นี้เจริญเติบโตได้ดีในอากาศร้อน
Christian Dior กุหลาบตัดดอก Hybrid Tea เป็นกุหลาบที่ได้รับความนิยมมาก เนื่องจากดอกสีแดงสด ให้ดอกดก รูปทรงดอกดี จำนวนกลีบดอกพอเหมาะ กิ่งยาวตรง แข็งแรง หนามน้อย ใบค่อนข้างหนา ดอกบานเต็มที่ขนาด 10-12 ซ.ม. กลิ่นหอมอ่อนๆ
กุหลาบ สีเหลือง เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น อาจเป็นเพราะว่าสีเหลืองของดอกทำให้แปลงดอกไม้ดูมีชีวิตชีวาและสวยงามขึ้น กุหลาบสีเหลืองมีอยู่หลายเฉดสี เหลืองเข้ม เหลืองอ่อน เหลืองปนขาว เหลืองอมส้ม ที่แน่ๆสวยทุกเฉดสี

กุหลาบเหลือง
หมายถึงความร่าเริง ความสุข และมิตรภาพ
Midas Touch กุหลาบตัดดอก Hybrid Tea ดอกสีเหลืองเข้ม ดอกใหญ่ รูปทรงดอกดี
ก้านดอกแข็ง เหมาะสำหรับเป็นกุหลาบตัดดอก ต้นสูงประมาณ 4-5 ฟุต แข็งแรง ต้านทานโรคได้ดี

กุหลาบสีขาว
ถูกใช้ในการจัดเป็นช่อดอกไม้เจ้าสาวสำหรับงานแต่งงาน เนื่องจากมีความหมายถึงความบริสุทธิ์ หรือความรักที่บริสุทธิ์
white Christmas กุหลาบตัดดอก Hybrid Tea ดอกสีขาว ขนาดใหญ่ กลีบดอกซ้อน ใบขนาดกลาง สีเขียวอ่อน ค่อนข้างมันเป็นเงา ดอกมีกลิ่นหอม ข้อเสียของกุหลาบพันธุ์นี้คือต้านทานโรคได้น้อย ต้องอาศัยการดูแลรักษาสูง

กุหลาบสีม่วง
Blue Moon กุหลาบตัดดอก Hybrid Tea ดอกสีม่วง (ชมพูอมฟ้า) กลิ่นหอมมาก ใบขนาดกลางสีเขียวไม่เข้มแต่ค่อนข้างมัน ต้นสูงประมาณ 3-4 ฟุต กว้างประมาณ 2 ฟุต เหมาะที่จะปลูกในแปลงหรือเป็นไม้กระถาง ข้อเสียคือต้องระวังโรคเชื้อรา

กุหลาบสีส้ม
Westerland Rose กุหลาบเลื้อย climbing สีส้มอ่อน กลีบดอกซ้อน ขอบกลีบมีรอยหยัก ดอกมีกลิ่นหอม ลำต้นตั้งตรง แข็งแรง ต้นสูงได้ถึง 8 ฟุต ใบนุ่มสีเขียวเข้ม อาจเกิดโรคราได้ง่าย นิยมปลูกให้เลื้อยไปตามรั้วบ้าน

กุหลาบสีน้ำเงิน
เรายังไม่เคยเห็นบลูโรส หรือดอกกุหลาบสีน้ำเงินแท้ๆ กันเลย ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะธรรมชาติของต้นกุหลาบนั้นไม่อาจสร้างเม็ดสีน้ำเงินได้ นั่นเอง
แต่จากเทคโนโลยีด้านยีนที่พัฒนาขึ้นในโลกยุคปัจจุบัน ทำให้เป้าหมายของนักปรับปรุงพันธุ์กุหลาบที่จะสร้างดอกกุหลาบสีน้ำเงินได้มา ถึงแล้ว และไม่ใช่แต่จะอยู่แต่เพียงในห้องปฏิบัติการเท่านั้น บัดนี้กุหลาบดอกสีน้ำเงินได้รับการสร้างเสริมคุณสมบัติให้มีอายุการบานดอก ที่นานขึ้น แถมมีกลิ่นหอม และทนฟรอส หรือน้ำค้างแข็งได้อีกระดับหนึ่ง จีเอมโรส (กุหลาบจีเอม หรือกุหลาบที่ผ่านการเปลี่ยนแปลงยีนแล้วจะเรียกมันว่าอะไรก็ตาม อาจหาชื่อได้ทั่วไปในกลุ่มประเทศอียูปัจจุบัน)



1. Hybrid Tea
กุหลาบประเภทนี้เป็นกุหลาบที่ได้รับความนิยมและรู้จักกันดี เป็นกุหลาบที่มีดอกขนาดใหญ่ที่สุดก้านช่อดอกยาว ปกติแล้วในแต่ละก้านจะมีเพียง 1 ดอก เป็นกุหลาบที่มีกลิ่นหอม ลักษณะทั่วไปของดอก Hybird Tea ก็คือ เป็นกุหลาบดอกใหญ่ มีรูปทรงดอกสวย มีการออกดอกอย่างต่อเนื่องต้นมีขนาดใหญ่
แข็งแรง ต้นจะสูงประมาณ 75-150 เซนติเมตร หรือมากกว่านี้ มีก้านดอกยาว จึงเหมาะสำหรับทำไม้ตัดดอก มีสีเกือบทุกสี ยกเว้นสีน้ำเงิน ดอกมักมีกลิ่นหอม ส่วนมากปลูกเป็นไม้ดอกประดับบ้านเรือนและสวน
2.Floribunda
เป็นกุหลาบที่นักผสมไม้ปรับปรุงพันให้กุหลาบนี้ออกดอกหลายดอกในหนึ่ง ช่อกุหลาบประเภทFloribunda นี้ได้จากการผสมกุหลาบ Polyantha ซึ่งมีดอกเป็นช่อกับกุหลาบประเภท Hybrid Tea ทำให้ลูกผสมที่ได้ หรือกุหลาบประเภท Florbunda นี้มีขนาดใหญ่กว่ากุหลาบประเภท Polyanthaจะมีรูปร่างคล้ายกับกุหลาบประเภท Hybrid Tea มักจะมีทรงพุ่มเตี้ย ดอกเป็นช่อ และบานพร้อมกัน กุหลาบประเภทจึงปลูกเป็นไม้ประดับแปลง
3. Grandiflora
แข็งแรง ต้นจะสูงประมาณ 75-150 เซนติเมตร หรือมากกว่านี้ มีก้านดอกยาว จึงเหมาะสำหรับทำไม้ตัดดอก มีสีเกือบทุกสี ยกเว้นสีน้ำเงิน ดอกมักมีกลิ่นหอม ส่วนมากปลูกเป็นไม้ดอกประดับบ้านเรือนและสวน
2.Floribunda
เป็นกุหลาบที่นักผสมไม้ปรับปรุงพันให้กุหลาบนี้ออกดอกหลายดอกในหนึ่ง ช่อกุหลาบประเภทFloribunda นี้ได้จากการผสมกุหลาบ Polyantha ซึ่งมีดอกเป็นช่อกับกุหลาบประเภท Hybrid Tea ทำให้ลูกผสมที่ได้ หรือกุหลาบประเภท Florbunda นี้มีขนาดใหญ่กว่ากุหลาบประเภท Polyanthaจะมีรูปร่างคล้ายกับกุหลาบประเภท Hybrid Tea มักจะมีทรงพุ่มเตี้ย ดอกเป็นช่อ และบานพร้อมกัน กุหลาบประเภทจึงปลูกเป็นไม้ประดับแปลง
3. Grandiflora
เป็นกุหลาบที่พัฒนามาจากกุหลาบ Floribunda อีกทีหนึ่ง กุหลาบประเภทนี้จะออกดอกเป็นช่อคล้ายกุหลาบประเภท Floribunda แต่ดอกมีขนาดใหญ่กว่าและรูปดอกนั้นมีลักษณะคล้ายกับกุหลาบประเภท Hybrid Tea มาก กุหลาบประเภทนี้มีพุ่มขนาดใหญ่ ดอกมีขนาดปานกลาง บางพันธุ์ก็ตรงข้ามกัน คือมีดอกจำนวนน้อย ก้านช่อดอกยาวปานกลางกุหลาบประเภท Grandiflora นี้มีทรงต้นสูง จึงนิยมปลูกเป็นฉากหลัง
4. Miniature
กุหลาบประเภทนี้เรียกว่า กุหลาบหนู กุหลาบประเภทนี้เป็นที่นิยมเมื่อ 20-30 ปีมานี้เองกุหลาบหนูเป็นลูกผสมของกุหลาบประเภท Polyantha กับกุหลาบประเภท Floribunda กับกุหลาบป่าบางชนิด กุหลาบหนูจะมีต้นและใบขนาดเล็ก เป็นกุหลาบประเภทใหม่ ที่มีกำเนิดมาประมาณ 50-60 ปีที่แล้ว เป็นกุหลาบที่ย่อส่วนลงมา จึงเหมาะสำหรับปลูกเป็นไม้กระถาง นิยมปลูกเป็นไม้ตามแนวรั้ว และเป็นไม้ประดับแปลง ไม่มีใครรู้ว่ากุหลาบหนูเกิดเมื่อใด และมีต้นต่อมาจากไหน แต่ส่วนใหญ่ในอเมริกานั้น นิยมปลูกประดับบ้าน ริมรั้วเตี้ยๆเป็นพันธุ์ที่แข็งแรงทนทานต่อสภาพแวดล้อมได้ดีกว่า บางครั้งก็จะตัดดอกมาปักแจกันเล็กๆ วางบนโต๊ะทำงาน
5. Climber
กุหลาบประเภทนี้คนไทยเรียกว่า กุหลาบเลื้อย กุหลาบเลื้อย บางพันธุ์นั้นได้มาจากการผสมพันธุ์ขึ้นมา บางพันธุ์ก็เกิดจากการกลายพันธุ์ของกุหลาบ ซึ่งกุหลาบที่กลายพันธุ์นี้จะมีรูปทรงดอกต่างๆ เหมือนกุหลาบพันธุ์เดิม แต่จะมีลำต้นเลื้อย กุหลาบเลื้อยนี้จะนิยมปลูกตามรั้วบ้าน ปลูกเกาะต้นไม้หรือปลูกให้เลื้อยไปตามโครงที่สร้างขึ้น
4. Miniature
กุหลาบประเภทนี้เรียกว่า กุหลาบหนู กุหลาบประเภทนี้เป็นที่นิยมเมื่อ 20-30 ปีมานี้เองกุหลาบหนูเป็นลูกผสมของกุหลาบประเภท Polyantha กับกุหลาบประเภท Floribunda กับกุหลาบป่าบางชนิด กุหลาบหนูจะมีต้นและใบขนาดเล็ก เป็นกุหลาบประเภทใหม่ ที่มีกำเนิดมาประมาณ 50-60 ปีที่แล้ว เป็นกุหลาบที่ย่อส่วนลงมา จึงเหมาะสำหรับปลูกเป็นไม้กระถาง นิยมปลูกเป็นไม้ตามแนวรั้ว และเป็นไม้ประดับแปลง ไม่มีใครรู้ว่ากุหลาบหนูเกิดเมื่อใด และมีต้นต่อมาจากไหน แต่ส่วนใหญ่ในอเมริกานั้น นิยมปลูกประดับบ้าน ริมรั้วเตี้ยๆเป็นพันธุ์ที่แข็งแรงทนทานต่อสภาพแวดล้อมได้ดีกว่า บางครั้งก็จะตัดดอกมาปักแจกันเล็กๆ วางบนโต๊ะทำงาน
5. Climber
กุหลาบประเภทนี้คนไทยเรียกว่า กุหลาบเลื้อย กุหลาบเลื้อย บางพันธุ์นั้นได้มาจากการผสมพันธุ์ขึ้นมา บางพันธุ์ก็เกิดจากการกลายพันธุ์ของกุหลาบ ซึ่งกุหลาบที่กลายพันธุ์นี้จะมีรูปทรงดอกต่างๆ เหมือนกุหลาบพันธุ์เดิม แต่จะมีลำต้นเลื้อย กุหลาบเลื้อยนี้จะนิยมปลูกตามรั้วบ้าน ปลูกเกาะต้นไม้หรือปลูกให้เลื้อยไปตามโครงที่สร้างขึ้น
บทความที่8ลักษณะของกุหลาบ
ลักษณะของดอกกุหลาบ
กุหลาบเป็นพรรณไม้ยืนต้น เป็นพุ่มขนาดเล็ก ลำต้นมีความยาวประมาณ 30-
200 เซนติเมตร ลำต้นเตี้ยและสูง มีหนามหรือไม่มีแล้วแต่ชนิดพันธุ์ลำต้นสีเขียวเมื่อแก่จะเป็นสีน้ำตาล
แตกกิ่งก้านมารอบต้นใบเป็นใบรวมแตกออกจากกิ่งก้านก้านใบจะมีหูใบติด
อยู่ด้วยลักษณะใบโคนใบมนปลายใบแหลมขอบใบมีหยักเล็กน้อยตัวใบนิ่มมีสีเขียวใบจะออกจากก้านใบเป็นคู่ขนาดความกว้างของ
ใบประมาณ 2- 4 เซนติเมตรยาวประมาณ3 - 5เซนติเมตรดอกเป็นดอกเดี่ยวมีก้านดอกยาวแตกออกจากปลายกิ่งหรือง่ามใบที่กิ่ง
ลักษณะดอกเป็นกลีบเรียงซ้อนกันเป็นชั้นๆประมาณ4-6 ชั้นดอกมีกลีบ 5-15 กลีบขอบดอกเรียบตรงกลางดอกมีเกสรตัวผู้และตัวเมีย
อยู่รวมกันดอกมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ดอกบานมี ความกว้างประมาณ 2-6 เซนติเมตรลักษณะของลำต้นใบดอกแตกต่างกันไปตามชนิด
พันธุ์
บทความที่7 ดอกกุหลาบปลูกไม่ยาก

ดอกกุหลาบปลูกไม่ยาก
สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเสน่ห์ที่ทำให้กุหลาบเป็นดอกไม้ยอดนิยมมาทุกยุคทุกสมัย แต่กระนั้นก็ยังได้ยินหลายคนบ่นให้ฟังว่า กุหลาบ เป็นดอกไม้ที่ปลูกยาก ดังนั้นเราเลยมีเคล็ดลับดีๆมาฝากคนรักกุหลาบกันค่ะ
ปัจจัยสำคัญอย่างแรกที่อยากจะพูดถึงก็คือเรื่องดินที่ใช้ปลูก กุหลาบชอบดินร่วนหรือดินร่วนปนทราย เพราะมีความโปร่ง ระบายน้ำได้ดี ไม่ขังแฉะ และมีธาตุอาหารสมบูรณ์ นอกจากนี้อาจช้ดินผสมที่มีจำหน่ายทั่วไปก็ได้เช่นกัน แต่ต้องเป็นดินเก่าที่อินทรียวัตถุต่างๆผ่านการย่อยสลายโดยจุลินทรีย์มาแล้ว สำหรับวิธีทดสอบว่าดินมีคุณภาพหรือไม่ ให้รดน้ำบนดินที่เตรียมไว้พอชุ่ม กำดินผสมให้แน่น แล้วคลายมือออก ถ้าดินแตกออกไม่เป็นก้อน แสดงว่าดินมีความโปร่งร่วน นำมาปลูกกุหลาบได้ แต่ถ้าดินยังอัดเป็นก้อน แสดงว่าดินแน่นเกินไป ควรนำมาผสมใหม่ โดยใส่ปุ๋ยคอก (ที่ผ่านการย่อยสลายแล้ว) แกลบดิบ หรือใบไม้ผุ เพื่อให้ดินโปร่งและมีธาตุอาหารมากขึ้น
ประการต่อมาก็คือแสงแดด ควรเลือกพื้นที่ปลูกที่มีแสงแดดส่องถึงอย่างน้อย 6 ชั่วโมง มีอากาศโปร่งโล่ง ไม่ร้อนเกินไป นอกจากนี้ยังไม่ควรปลูกใต้ร่มไม้ใหญ่ เพราะจะทำให้ทรงพุ่มไม่สวยงาม ออกดอกไม่สม่ำเสมอ หรืออาจไม่ออกดอกเลย หากปลูกในที่ที่ได้รับแสงแดดด้านเดียว กุหลาบก็จะออกดอกเพียงด้านเดียว เมื่อปลูกไปนานๆ ต้นจะเอียงเสียรูปทรง
ปัจจัยที่สำคัญอีกประการคือน้ำที่ใช้รดต้นกุหลาบควรเป็นน้ำสะอาด เช่น น้ำประปา น้ำฝน หากใช้น้ำคลองต้องมั่นใจว่าไม่มีสิ่งอื่นเจือปน ส่วนน้ำบาดาล อาจมีแร่ธาตุบางอย่างที่กุหลาบไม่ชอบเจือปนอยู่ ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการรดน้ำกุหลาบคือช่วง 7.00-8.00 น. และควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอทุกวัน ไม่ควรรดน้ำในช่วงที่มีแสงแดดแรง เพราะจะทำให้ใบเหี่ยวเฉาหรือเกิดรอยไห
ม้
ม้
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
บทความที่20 สรุป
♣ สรุป กุหลาบเป็นไม้ตัดดอกชนิดหนึ่งที่น่าสนใจจะทำการปลูก เนื่องจากใช้ประโยชน์ ได้หลายอย่างไม่ว่าจะปลูกเพื่อตัดดอกบูชา พระ...
-
ประเด็นที่เลือก เรื่อง.สายพันธุ์ของดอกกุหลาบ. 1.ถ้าดอกกุหลาบสายพันธ์ุไทยนำมาผสมพันธ์ุฝร...
-
ลักษณะของดอกกุหลาบ กุหลาบเป็นพรรณไม้ยืนต้น เป็นพุ่มขนาดเล็ก ลำต้นมีความยาวประมาณ 30-200 เซนติเมตร ลำต้นเตี้ยและสูง มีหนามหรือไม่...